XFIT PRO นาฬิกาอัจฉริยะใส่ใจสุขภาพ

รีวิว XFIT PRO นาฬิกาอัจริยะ




         ขอเล่าให้ฟังก่อนว่า ทำไมถึงต้องใช้นาฬิกา XFIT PRO ก็เพราะเดือนที่แล้วไปหาหมอ ที่ รพ.ย่านสีลม ด้วยอาการปวดท้องไม่รู้สาเหตุ หายาทานก็ไม่หาย พอไปถึง รพ. นางพยาบาลก็ทำการตรวจวัดความดันเหมือนทั่ว ๆไป ผลออกมา 135/87 mm Hg. ถึงกับตกใจ ที่พยาบาลบอกว่า คุณ เป็นความดันสูงหรือเปล่าคะ ?
  
      เอ๊ะ... หรือว่าเป็นเพราะ พยาบาลรีบวัดความดันทันที ขณะที่เดินเข้ามาที่ รพ.โดยที่เราไม่ได้หยุดพักให้หายเหนื่อยก่อน  แต่ก็แปลกที่ว่า ปกติความดันของตัวเองจะสูงไม่ถึงขนาดนี้ จะอยู่ประมาณ 110-118/74-78 mm Hg. แต่นี้ถึง 135 mm Hg. มันไม่จริงใช่ไหม หรือเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนแล้ว 41 ปี เหรอ ?? หรือเป็นกรรมพันธุ์ เพราะพ่อ หัวใจโต และก็มีความดันสูงถึง 170 mm Hg.แหนะ  ต้องไปหาหมอ และทานยาลดความดันเป็นประจำ

      ทำให้เกิดความสงสัยในใจ และอยากหาคำตอบว่าตัวเอง  ว่าเราถึงช่วงที่จะต้องเป็นแล้วเหรอ  จึงได้ถามเพื่อนที่ทำงาน ที่เค้าใส่นาฬิกาแบบสายรัดข้อมือ สปอต ๆ ใส่เหมือนนาฬิกาออกกำลังกาย  เค้าแนะนำให้ลองหานาฬิกาเพื่อสุขภาพติดตัวไว้วัด เผื่อความดันขึ้นจะได้หยุดพักขณะทำกิจกรรมนั้น ไม่หักโหมจนเกินมันติดตัวได้ง่าย และสามารถวัดได้ตลอดเวลา


      จนมาเจอ XFIT PRO ที่ตอบโจทย์ สามารถตรวจวัดความดันได้ทุกที่ ทุกเวลา 

มีการแจ้งเตือน เมื่อความดันสูงถึงขีดอันตราย และฟังชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย มันเตือนกระทั่งนั่งทำงานเอยู่กับที่นาน ๆ สั่นให้รู้ตัวว่า ควรลุกเดินอย่านั่งอยู่กับที่ได้ ...เออดีแหะ และมันใช้งานง่ายในการตั้งค่านาฬิกากับ  APP MeCare สามารถเก็บสถิติของเรา สามารถดูย้อนหลังได้ตั้งแต่เริ่มใช้งานถึงปัจจุบัน แล้วมันดีจริงอย่างที่บอกไว้มั๊ย วันนี้ก็เลยจะโชว์การใช้งาน นาฬิกายเพื่อสุขภาพ XFIT PRO เผื่อจะชอบ และซื้อให้ผู้สูงอายุใช้ตามกันนะจ๊ะ



XFIT PRO สีกรมท่า

       XFIT PRO คือ นาฬิกาที่เหมาะกับผู้มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง 
หรือผู้มีความเสี่ยงของการทำงานของใจที่ไม่ปกติ หรือผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ มีฟังก์ชั่นในการวัดสุขภาพหลายรูปแบบ เช่น วัดก้าวเดิน วัดการเผาผลานของร่างกาย วัดการเต้นของหัวใจ วัดการเล่นกีฬาในแบบง่าาย ๆ โดยแสดงผลการวัดค่าต่าง ๆ ซึ่งรุ่นนี้ XFIT PRO จะเน้นเรื่อง วัดความดันโลหิตเป็นหลัก สามารถวัดได้ใกล้เคียงความจริงถึง 95 %  แสงผลผ่านหน้าปัดนาฬิกา และเก็บสถิติต่าง ๆ ผ่านในแอพพลิเคชั่น Mecare สามารถดูย้อนหลังเพื่อเปรียบเที่ยบสุขภาพตัวเองได้


      หน้าตาของนาฬิกา 
XFIT PRO ออกแบบมีความเป็นแฟชั่น สามารถใส่ได้ทุกโอกาศ  หน้าจอเป็น OLED  สีสันสดใส  มี 4 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ-แดง, ดำ-น้ำเงิน, น้ำเงินล้วน และน้ำเงิน-แดง (สี Limited)  ที่เลือกน้ำเงินล้วนเพราะชอบสายรัดข้อมือแบบเรียบ ๆ แค่นี้ก็เก๋แล้ว




      ถ้าอยากได้ XFIT PRO วัดค่า และวัดผลใกล้เคียงความจริงมากที่สุด ต้องทำตามที่บอกค่ะ  ให้ใส่สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ  XFIT PRO ให้ห่างจากข้อมือประมาณ 1.5 ซม. หรือห่างประมาณ 1 นิ้วมือ กะง่ายดี จะทำให้การวัดค่าของระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ทำการปล่อยแสงสีเขียว เวลาตรวจวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตได้อย่างถูกต้อง





      เมื่อได้ XFIT PRO มาครอบครองแล้ว ก็ต้องรู้วิธืที่ทำให้แบตอยู่ได้นานที่สุดจริงมั๊ย  เรามาดูวิธีชาร์จแบตกัน ว่าเค้าถอด เค้าชาร์จกันยังไง  ง่ายหรือยากมั๊ย มาดูกันเลย



       พลิกด้านหลังของสายรัดข้อมือ สามารถถอดสายออกได้ทั้ง 2 ข้างเลย  หรืออยากถอดข้างเดียวก็ได้ ให้สังเกตุที่สายนาฬิกา หาสัญญาลักษณ์ USB(ตามภาพ)ค่อย ๆ โยกสายนาฬิกากับตัวเรือนออกจากกัน  





       สามารถชาร์จผ่าน Adapter ที่ชาร์จได้ทันที  หรือหัว USB เสียบกับคอมพิวเตอร์ได้เลย ข้อควรระวัง  ในการชาร์จครั้งแรกควรชาร์จทิ้งไว้ 2 ขั่วโมงนะจ๊ะ  ในการชาร์จนาฬิกาครั้งต่อไปหลังจากใช้งานไปแล้ว ส่วนมากจะประมาณ 4-5 วัน แบตจะเหลืออยู่ 2 ขีด ให้ทำการชาร์จได้เลย อย่ารอให้แบตหมดก่อนแล้วค่อยชาร์จ เพราะจะทำให้นาฬิกามีอายุการใช้งานน้อยลง แบบเสื่อมเร็ว ( หลักการเดียวกับมือถือเลย เหลือ 20% ต้องชาร์จ )





      หลักจากชาร์จเสร็จแล้ว ครั้งแรกที่ใช้งานเวลาในนาฬิกาปรากฎว่า บอกเวลาไม่ตรง?? จะปรับยังไง?? ตรงไหน?? ก็เลยลอง Download application MeCare เพื่อซิงค์ข้อมูลในมือถือกับนาฬิกานี่แหละ เวลาถึงจะตรงกันเป๊ะ สามารถดาวน์โหลดแอปลงมือถือได้ทั้งระบบ Android และ ios 
   
     พอดีมือถือที่ใช้ส่วนตัวเป็น ระบบ Android จึงสาธิตให้ดูวิธีการ Download application MeCare หน้าตาแบบนี้  ในส่วนของ ios น่าจะไม่แตกต่างกันมาก

      ระบบ Android ให้เข้าไปที่ Play Store ค้นหาคำว่า MeCare เพื่อทำการดาวน์โหลดลงมือถือ เปิดแอปเพื่อทำการลงทะเบียน E-Mail เพื่อใช้งาน รับรหัสยืนยันผ่าน SMS จากมือถือ แล้วกรอกข้อมูล ใส่ password  เมื่อเข้าแอปแล้ว ทำการเชื่อมต่อข้อมูลตรงแถบสีแดง


      หรือ จะกดข้ามตั้งแต่ครั้งแรกไปเลยก็ได้ ที่มุมขวาล่าง  ข้อดีของการลงทะเบียน คือ การที่เราแสดงตัวตน ทำให้สามารถใช้มือถือมากกว่า 1 เครื่อง ในการดูสถิติและเก็บข้อมูลต่อเนื่องได้นะจ๊ะ





        วิธีดูรหัสเครื่อง ให้เราดูรหัสเครื่อง (Serial Number) ในฟังก์ชั่นหน้าสุดท้ายของนาฬิกา โดยกดปุ่มไปเรื่อย ๆ จนเจอหน้านี้ มีรูปเหมือนปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ด้านล่างจะเป็นรหัสเครื่อง ให้เราจำตัวเลข 4 ตัวสุดท้ายเอาไว้ 


        ส่วนในมือถือให้ทำการเปิด บลูทูธ เพื่อให้นาฬิกาได้ค้นหากับมือถือเจอ ในหน้านี้จะเห็นว่าใน แอป ได้ค้นหานาฬิกาอัจฉริยะของเราเจอแล้ว สังเกตุที่ตัวเลข 4 ตัวสุดท้าย ปรากฎอยู่ในแอป ให้ทำการเลือก และทำการรีเฟรชข้อมูลที่มุมขวาบน เป็นอันสมบูรณ์ 





      เมื่อ App ได้เชื่อมต่อกับ XFIT PRO แล้ว  มุมขวาล่างจะมีรูปฟันเฟือง ( ตั้งค่า ) ให้กดเข้าไป เลือกเมนูข้อมูลผู้ใช้ ใส่ข้อมูลผู้ใช้งาน เช่น อายุ เพศ  น้ำหนัก  ส่วนสูง  ความดัน และ สีผิว ทำการบันทึกที่มุมบนด้านขวามือ  เพราะว่าการใส่ข้อมูล มันมีผลต่อระบบเซ็นเซอร์ที่ยิงแสงสีเขียว ผ่านข้อมือ เพื่อทำการวัดการไหลเวียนของโลหิต และการเต้นของหัวใจ ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น  



        ที่รู้เพราะว่านำ XFIT PRO ไปทดสอบกับพ่อที่ความดันสูง แล้วค่าที่วัดออกมากลับปกติ ทำให้แปลกใจและหาสาเหตุว่าทำไมถึงได้ข้อมูลไม่ตรง ก็มาเจอจุดนี้แหละ ว่าเป็นข้อมูลเราทั้งหมดจึงทำให้การวัดผิดไป กลายเป็นความดันสูงเล็กน้อย 120 mm Hg. เท่านั้น เลยต้องเปลี่ยนข้อมูลทั้งหมดเป็นของพ่อ แล้วทำการวัดใหม่อีกครั้ง 




     เรามาดูฟังชั่นต่าง ๆ ในหน้าจอ XFIT PRO กันดีกว่า มีทั้งหมด 10 ฟั่งชั่น  ได้แก่
  1. หน้าปัดนาฬิกาบอกเวลา สีสันสดใส มองเห็นในที่มืดชัดเจน แค่พลิกข้อมือ หน้าจอจะปรากฎเวลา
  2. โหมดรายงานสภาพอากาศ (จะขึ้นมาบางครั้ง)


  3.นับก้าว หรือนับจำนวนการเคลื่อนที่  แค่ใส่อยู่กับที่แต่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาก็นับนะ สามารถตั้งเป้าจำนวนก้าวในการเดินได้ เช่น กำหนดไว้ทุกการเคลื่อนไหว 10,000 ครั้งต่อวัน ถ้าทำได้จะมี ฟังก์ชั่นสั่นเตือน ขึ้นเป็นรูปถ้วยรางวัล!!
  

    วิธี set เป้าหมายการเคลื่อนไหว ใน App MeCare ไปที่ตั้งค่า (มุมขวาล่าง) ลงมาที่เมนูเป้าหมายการเคลื่อนไหว แล้วใส่เป้าหมายจำนวนก้าวที่ต้องการต่อวัน ถ้าทำสำเร็จจะมีการสั่งแจ้งเตือน เห็นเป็นรูปถ้วยรางวัล  และเราสามารถเข้าไปดูสถิติในแต่ละวันได้ใน App MeCare ด้วยเช่นกัน 


     วิธีเข้าไปดูสถิติการก้าวที่ตั้งค่าไว้ กดไปที่เมนูก้าว พื้นที่สีฟ้าใน App MeCare จากนั้นระบบจะแสดงข้อมูลการก้าวในแต่ละวัน สามารถดูย้อนหลังได้
  
4.วัดระยะทางในการเคลื่อนที่ต่อวัน ( กิโลเมตร )

5.วัดการเผาผลาญแคลอรี่ Kcal.

6.โหมดเล่นกีฬา เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน ยกน้ำหนัก มีไว้ให้ออกกำลังกายบ้าง แต่ XFIT PRO รุ่นนี้เน้นเรื่องการวัดความดันโลหิต ของผู้สูงอายุ และใส่ใจสุขภาพเป็นหลัก


               เลือกฟังก์ชั่น Sport  แล้วกดค้างไว้ นาฬิกาอัจฉริยะจะปรากฎกีฬาแต่ละประเภทขึ้นมา  ถ้าสนใจกีฬาประเภทไหนให้กดค้างไว้ที่ฟังก์ชั่นนั้น ๆ  หรือถ้าวัดค่าการออกกำลังกายเสร็จแล้ว ให้กดไปจนสุดเมนู จะพบเครื่องหมายย้อนกลับไปที่หน้าแรก


       ทดสอบฟังก์ชั่นกีฬาปั่นจักรยาน ให้เปิด App MeCare ด้านล่างของ App จะมีรูปรองเท้า ให้กดเข้าไป จะเห็นเมนูวิ่ง ปั่นจักรยาน ยกน้ำหนัก วันนี้เราทดสอบปั่นจักรยาน เราเลือกไปที่เมนูปั่นจักรยาน (รูปสีฟ้า) จากนั้นเมื่อเรา กดเริ่ม App MeCare ทำส่งสัญญาณไปยังนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาเป็นเมนูปั่นจักรยานโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน 


7.ตรวจวัดความดันโลหิต มี 2 แบบ คือ 
      7.1 แบบ ECG (Electrocardiogram )หรือบางที่เรียก EKG เป็นการวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า มีผลการวิเคราะห์ข้อมูลจาก AI ส่งผ่าน App MeCare เพื่อให้ทราบค่าความดันโลหิต และถูกเก็บเป็นสถิติไว้
      7.2 แบบ PPG (Photopletysmogram) เป็นการวัดสัญญาณที่ได้จากการวัดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณของเลือดหรืออวัยวะ เพื่อนำมาคำนวณหาอัตราการเต้นของหัวใจ แต่จะไม่ถูกนำไปเก็บเป็นสถิติใน App MeCare 









     เมื่อเทียบกับเครื่องวัดความดันโลหิตใน รพ.จะได้ไม่เท่ากันเพราะเป็นการวัดค่าคนละอย่าง แต่ถ้าเป็นอัตราการเต้นหัวใจ สามารถวัดได้ค่าตรงกัน 

   
     
 
            วิธีการวัดแบบ ECG (Electrocardiogram )หรือบางที่เรียก EKG ในนาฬิกาอัจฉริยะ XFIT PRO กดเลือกฟังก์ชั่นตรวจวัดความดัน ( ที่เป็นรูปชีพจร ) แล้วใช้นิ้วแตะสื่อด้านข้าง ให้เซ็นเซอร์สัมผัสครบ 3 จุด จากนั้นจะระบบเซ็นเซอร์ด้านล่างจะปล่อยแสงสีเขียว และเพิ่มความเข้มข้นของแสงออกมาตามสีผิวที่เราตั้งค่าผู้ใช้งานในตอนแรก



      
ผลการวิเคราะห์ความดัน แบบ ECG 
            วิธีการวัดแบบ ECG (Electrocardiogram )ใน App MeCare ให้กดเลือกบริเวณ หัวข้อวัดเคลื่อนหัวใจ ECG จะปรากฎหน้าจอวัดคลื่นหัวใจ ให้กดสามเหลี่ยมด้านล่าง และทำการเริ่มการวัด จากนั้นให้ใช้นิ้วแตะไปที่นาฬิกาอัจฉริยะ XFIT PRO ได้เลยฟังก์ชั่นจะขึ้นมาให้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อวัดความดันเสร็จ ให้ทำการบันทึกผลการวัดไว้ เพื่อดูผลการวิเคราะห์ความดันโลหิตจาก AI อย่างละเอียดอีกครั้ง

     
       
                เราสามารถดูสถิติผล การวัดความดัน ได้หน้าแรกของ  App MeCare เมนูความดัน(สีแดง)เมื่อกดเข้าไปจะปรากฎข้อมูลความดันสูงสุด และต่ำสุด ในแต่ละวันที่เราวัดความดัน



สอนให้ทำการวัด XFIT PRO เองได้ง่ายๆ 
วัดแบบ ECG คลื่นหัวใจ

               ทดสอบวัดความดันคุณพ่อ อายุ 65 ปี ซึ่งมีความดันสูง เป็นโรคหัวใจโต และก่อนทำการวัดจะต้องเข้าไปตั้งค่าผู้ใช้งาน ใส่อายุ  เพศ  ส่วนสูง  น้ำหนัก  ความดัน  สีผิว  ให้เรียบร้อย เพราะมีผลต่อการประมวลผลข้อมูลของระบบ AI 

       สอนการใช้งานให้พ่อสามารถตรวจเอง ไว้วัดความดันระหว่างวัน แล้วตอนเย็นค่อยกลับมาดูค่าว่าสูงสุด-ต่ำสุด เท่าไหร่ และผลการอ่านค่าของคลื่นหัวใจ  สังเกตุได้จากคำว่า Suspected  จึงกดเข้าไปดูปรากฎว่ามีการเต้นผิดปกติของหัวใจด้านขวา  แสดงว่านาฬิกาอัจฉริยะ XFIT PRO สามารถวัดค่าได้จริง



         ทดสอบให้แม่วัดความดันระหว่างวัน อายุ 62 ปี สุขภาพแข็งแรง ความดันปกติ ไม่มีโรคประจำตัว  ก่อนเริ่มการวัดให้ทำการเปลี่ยนข้อมูลผู้ใช่ก่อนเสมอ  เมื่อใส่ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ให้ทำการวัดความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติ


8.ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจ  จะวัดจากนาฬิกาอัจฉริยะฟังก์ชั่นการเต้นของหัวใจ(รูปหัวใจ) ระบบจะทำการวัดค่าโดยอัตโนมัติ และส่งผลไปเก็บใน App MeCare


         เราสามารถดูสถิติผล การวัดการเต้นของหัวใจ ได้หน้าแรกของ  App MeCare เมนูการเต้นหัวใจ(สีเขียว)เมื่อกดเข้าไปจะปรากฎข้อมูลการเต้นของหัวใจสูงสุด และต่ำสุด ในแต่ละวัน 



9.การแจ้งเตือน เช่น ข้อความ , สายเรียกเข้า , โซเชี่ยลมิเดีย และอื่นๆ




                  ไปที่  App MeCare เมนูตั้งค่ามุมขวาล่าง เลือกไปที่เชื่อมต่อแล้ว > จะเป็น เมนูเตือน > เลื่อนให้เป็นสีเขียว และกดไปที่ลูกศร > เพื่อทำการตั้งค่าการแจ้งเตือนต่าง ๆ เลื่อนเปิดเป็นสีเขียวได้ตามชอบ แล้วกดที่มุมขวาบน เพื่อทำการอนุญาติให้ทำ  เมื่อมีการแจ้งเตือนตามที่กำหนดไว้ นาฬิกาอัจฉริยะจะสั่นเตือน


 10.Serial Number และเปิด-ปิดเครื่อง ใช้ดู Serial Number ในการเชื่อมต่อข้อมูล




ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ชอบ 


       ชอบฟังก์ชั่น เตือนนั่งนาน ไปที่  App MeCare เมนูตั้งค่ามุมขวาล่าง เลือกไปที่เชื่อมต่อแล้ว > จะเป็น เมนูเตือนนั่งนาน > กดไปที่ลูกศร > เลื่อนเตือนนั่งนานเป็นสีเขียว และกำหนดระยะเวลาการแจ้งเตือน และสามารถกำหนดวันแจ้งเตือนได้ด้วย โดยกดที่วันแจ้งเตือนจะเป็นเครื่องหมายถูก เมื่อมีการแจ้งเตือนถึงตามที่กำหนด นาฬิกาอัจฉริยะจะสั่นเตือน ให้เราเคลื่อนไหวและหน้าปัดจะมีรูปลุกนั่ง 

        


       ฟังก์ชั่นการนอน เราสามารถดูสถิติการนอนในแต่ละวันได้  สามารถไปตั้งค่าเป้าหมายการนอนได้ โดยใส่เวลาช่วงที่เราเข้านอน แล้วกดตกลง  ระบบจะเก็บค่าเอาไว้ และจะเริ่มวัดผลขณะที่เราหลับ แสดงคุณภาพการหลับ ว่าหลับลึก หรือ หลักตื้น  หลับพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่า

                 การเข้าไปดูสถิติการนอนในแต่ละวันได้ที่  App MeCare เมนูการนอน(สีม่วง)ระบบอัจฉริยะจะเก็บข้อมูลขณะที่เราหลับ





       สรุปว่านาฬิกาอัจฉริยะ XFIT PRO เป็นนาฬิกาที่ผู้สูงอายุใช้ได้จริง ใช้ง่ายด้วย 
สามารถวัดได้ตามต้องการ และแสดงผลการวัดค่าต่าง ๆ เก็บไว้ที่ App MeCare สามารถดูสถิติการวิเคราะห์ต่าง ๆ ผ่านระบบ AI สามารถนำไปคุยกับคุณหมอได้อย่างมั่นใจ

#นาฬิกาอัจฉริยะ #สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ  #รีวิวXFITPRO #นาฬิกาวัดความดัน #นาฬิกาSmartWatch



********************************


สนใจติดต่อ ข้อมูล โปรโมชั่นเปิดตัว
จากปกติ 5,500บาท เหลือเพียง 3,450 บาท 
จัดส่งฟรีทั่วประเทศ มีบริการเก็บเงินปลายทางฟรี

Online >> Line@ : @xfit

Sellplus Call center : 02-0263581 
FB Fanpage : XFIT WATCH



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

LOLANE Z cool Color Milk Y6

"ยูนิเรน สเปรย์ " ฉีดง่าย คลายกล้ามเนื้อ

รีวิว 4 Mixoil น้ำมันสกัดเย็น 4 ชนิดจากธรรมชาติ